นักกีฬาจำเป็นต้องฝึกการนับคะแนนให้เป็น ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องฝึกด้วยเช่นกัน เพราะเวลาไปแข่งขันจริงจะได้รู้คะแนนของตนเอง รวมถึงเป็นการกระตุ้นตนเองให้ทำคะแนนเพิ่มขึ้นให้ได้ด้วย หรือกรณีที่ผู้ตัดสินนับคะแนนของเราผิดพลาดเราจะได้ไม่เสียคะแนนให้กับคู่ต่อสู้ไปแบบฟรีๆ
รวมถึงการจัดการแข่งขันปิงปองในประเทศเราในรายการที่ไม่สำคัญมากมีแนวโน้มที่จะจัดแข่งขันโดยให้นักกีฬานับกันเองมากขึ้น เหตุผลเพราะเป็นการประหยัดงบประมาณด้านค่าเบี้ยเลี้ยงสำหรับผู้ตัดสินไปได้มาก หรือก็ใช้ผู้ตัดสินในรอบลึกๆ เพราะจำนวนผู้ตัดสินจะลดลง หรือที่เรารู้จักกันดีคือการจัดแข่งขันแบบ FAIR PLAY ครับ ซึ่งระบบนี้จะดีต่อการฝึกให้นักกีฬาได้รู้จักการนับคะแนนของตนเองในการแข่งขัน รวมถึงหากมีปัญหาใดๆ เช่น เสริฟติดเน็ต , ลูก good , บังลูกเสริฟ ฯลฯ จะได้ตกลงกันได้เอง ซึ่งจะนำมาซึ่งการสร้างความมีสปิริตในการเล่นกีฬาให้กับนักกีฬาได้ไปในตัวครับ
สำหรับวิธีการนับคะแนน มีวิธีการฝีกให้นับเป็นได้ด้วยตนเองง่ายๆ ดังนี้
กติกาในการแข่งขัน
- ใน 1 เกมส์ แข่งขันกัน 11 คะแนน ใครได้ 11 คะแนนก่อนเป็นฝ่ายชนะ
- การเสริฟ ผลัดกันเสริฟฝ่ายละ 2 ครั้ง
- เมื่อคะแนนเท่ากัน 10 คะแนน ให้ผลัดกันเสริฟฝ่ายละ 1 ครั้ง ใครได้ 2 คะแนนติดต่อกันจะเป็นฝ่ายชนะ
วิธีการฝึกนับ
- เมื่อเริ่มแข่ง คะแนนนักกีฬาทั้ง 2 ฝ่ายจะเท่ากันคือ 0 ต่อ 0
- เมื่อแข่งกันไปเรื่อยๆ เมื่อนำคะแนนที่เกิดขึ้นต่อมาจาก 0 ต่อ 0 กลายเป็น 1 ต่อ 1 และ เมื่อนำคะแนนที่เกิดขึ้นบวกกันแล้วได้ผลลัพธ์เป็นเลขคู่...ให้เปลี่ยนเสริฟ กรณีนี้ 1 + 1 = 2 ก็ให้เปลี่ยนเสริฟ หรือ เมื่อคะแนนเป็น 3 ต่อ 3 เมื่อนำมาบวกกัน 3 + 3 = 6 ก็ให้เปลี่ยนเสริฟ
- แต่หากเมื่อนำคะแนนที่เกิดขึ้นบวกกันได้ผลลัพธ์เป็นเลขคี่ ก็ให้เสริฟต่อไป
และข้อสำคัญของ 1 ประการก็คือ.....
- ในการนับคะแนนนั้น ฝ่ายไหนเสริฟให้นับคะแนนตัวเลขของฝ่ายนั้นขึ้นก่อน คะแนนฝ่ายรับลูกเสริฟ
ยกตัวอย่างเช่น ฝ่ายเสริฟมีคะแนนนำฝ่ายรับอยู่ 5 ต่อ 1 เมื่อเปลี่ยนเสริฟคะแนนเวลานับของฝ่ายเสริฟก็จะต้องนับแต้มเป็น 1 ต่อ 5